Diamond Magic นักมายากลต้นแบบของคนรุ่นใหม่
มีการบันทึกไว้ว่า วิทยากล หรือ มายากล ในโลกเราก่อกำเนิดมานานนับพันปี เนื่องด้วยมีผู้พบภาพบนผนังถ้ำ ซึ่งบอกเล่าถึงการแสดงกลด้วย
ถ้วย 3 ใบและยังพบบันทึกเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับมายากลเป็นจำนวนมากกระจัดกระจายตามประเทศต่างๆ ทั่วโลก จึงมีการสันนิษฐานกันว่า
มายากลน่าจะกำเนิดมาจากชาวกรีกโบราณ จากนั้นจึงค่อยๆ เผยแผ่ไปในยุโรป และเอเชีย ซึ่งต่อมามายากลได้มีการพัฒนารูปแบบไปมากมาย
และยังคงมนเสน่ห์ที่ตรึงตาตรึงใจผู้คนทั่วโลกอยู่อย่างไม่เสื่อมคลายจวบจนยุคปัจจุบัน
Young Executive ฉบับนี้ไม่ได้จะพาท่านไปเรียนรู้การเล่นมายากลแต่อย่างใดหรอกนะคะ แต่เราภูมิใจนำเสนอนักมายากลคนรุ่นใหม่ที่รักและ
หลงใหลในศาสตร์แขนงนี้อย่างหัวปักหัวปำ มากถึงขนาดหายใจเข้าออกเป็นมายากลอยู่หลายปี จนกระทั่งวันนี้ในวัยเพียง 24 ของเขา ความรัก
และความมุ่งมั่นในมายากลทำให้เขาสามารถผงาดขึ้นมาเป็นนักมายากลมืออาชีพระดับแถวหน้าที่น่าจับตามองไม่น้อยทีเดียว ซึ่ง คุณศิรการ ศรี
อาจ หรือฉายาที่ใช้ในการแสดงมายากลว่า Diamond Magic ก็คือนักมายากลคนรุ่นใหม่ที่เราพูดถึงค่ะ
คุณศิรการ เล่าว่า เขาชื่นชอบมายากลมาตั้งแต่เด็กๆ โดยเริ่มจากการซื้อกลตามตู้จำหน่ายที่อยู่ตามห้างสรรพสินค้ามาฝึกฝีมือ แม้จะเป็นเพียง
ความสนุกเล็กๆ น้อยๆ ของเด็กผู้ชายคนหนึ่ง กระนั้น เด็กชายตัวน้อยกลับไม่หยุดที่จะเรียนรู้สิ่งแปลกใหม่ แม้จะเป็นวิถีที่แหวกแนวไปกว่าเพื่อนใน
วัยเดียวกันก็ตาม ส่วนใหญ่กลตู้มันจะมีลักษณะคล้ายๆ ของเล่น เป็นกลเล็กๆ น้อยๆ เล่นพอสนุก ซึ่งคนขายก็จะเป็นพนักงานห้างฯ ที่ได้รับ
การอบรมมา ฉะนั้นเขาก็จะเล่นได้เฉพาะแค่ของที่เขาขายเท่านั้นเอง ทีนี้พอเราเล่นจนทะลุแล้วมันก็อยากต่อยอดไปเล่นอะไรที่ยากขึ้นบ้าง แต่
พนักงานขายเขาไม่ใช่นักมายากล เขาก็เลยไม่สามารถต่อยอดให้เราได้ เราก็ได้แต่เก็บความอยากรู้อยากเห็นเอาไว้เพราะก็ไม่รู้จะไปเรียนกับใคร
จนกระทั่งประมาณ ป.4-ป.5 มันก็มีหมากฝรั่งยี่ห้อซิกส์เซนท์ที่แถมมายากลด้วย เราก็จะซื้อมาสะสมมาเรื่อยๆ ผมมีครบทุกชุดเลยนะ พอฝึกเล่น
อะไรได้ก็จะเอาไปเล่นโชว์เพื่อนๆ พอโตขึ้นมาอีกหน่อย ก็มีรายการซุปเปอร์จิ๋ว ที่จะมีพี่ฟิลิปส์มาสอนเด็กๆ เล่นมายากล ผมก็ชอบดูรายการนี้มาก
แล้วก็ได้ความรู้จากรายการซุปเปอร์จิ๋วนี่แหละที่นำมาฝึกฝีมืออยู่เรื่อยๆ จนกระทั่งเรียนชั้น ม.ปลาย ก็ค่อยๆ ซาเรื่องมายากลไป เพราะหันไปเล่น
กีฬา เล่นเกม แล้วก็อ่านหนังสือมากขึ้น เรียกว่าช่วงนั้นผมแทบจะหยุดเล่นมายากลไปเลย
พอเข้ามหาวิทยาลัย เราก็เริ่มรู้สึกว่าเวลาว่างเยอะ เพราะบางทีมีเรียนไม่เต็มวัน ก็เลยไม่รู้จะเอาเวลาไปทำอะไร ผมเลยลองนั่งคุยเล่นๆ กับคนที่
บ้านว่าว่างๆ เราจะทำอะไรดี คุณพ่อผมซึ่งท่านรู้จักกับคนหลากหลายวงการอยู่แล้ว เนื่องจากท่านเป็นนักจัดรายการวิทยุ ก็เลยแนะนำให้ผมรู้จัก
กับนักมายากลจากคณะแบล็คสกอร์เปี้ยน แล้วก็ช่วยคุยให้แบล็คสกอร์เปี้ยนช่วยสอนพื้นฐานมายากลให้ผม จุดนี้เลยทำให้ผมกลับมาคลุกคลีกับ
มายากลอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่เล่นเป็นเด็กๆ เหมือนอย่างที่ผ่านมาแล้ว เพราะเขาจะสอนพื้นฐานการเล่นมายากลให้ผมแบบจริงจังเลย ซึ่งผม
เองก็รู้สึกว่ายิ่งเรียนยิ่งสนุก ยิ่งอยากรู้โน่นนี่อยู่ตลอดเวลา แต่พอเรียนไปได้สักระยะแบล็คสกอร์เปี้ยนเขาก็ย้ายที่อยู่ไป พอผมติดต่อกับเขาไม่ได้
มันก็รู้สึกว่าค้างๆ น่ะ อยากจะฝึกอีก พอไม่รู้จะไปต่อยอดกับใคร ผมก็ตระเวนเลยทีนี้ เรียกว่ามีมายากลที่ไหนผมจะไปดู ไปตั้งหลายที่นะครับ จน
ที่สุดท้ายเป็นฟาร์มจระเข้สามพราน ซึ่งมีนักมายากลท่านหนึ่งชื่อแบล็คดรากอน เราก็เข้าไปคุยเลยว่าอยากจะขอเรียน แล้วผมจริงจังด้วยเพราะ
อยากขึ้นโชว์บนเวทีให้ได้ และผมก็ได้แบล็คดรากอนเนี่ยแหละที่เติมเต็มความรู้ให้กับผม ช่วงนั้นผมมุ่งมั่นมาก อย่างการฝึกสับไพ่เนี่ย กว่าจะฝึก
เป็นผมใช้เวลานานมาก แล้วผมจะวางไพ่ไว้ทุกที่เลยนะ ทั้งหัวนอน ห้องน้ำ ในกระเป๋า ฯลฯ นั่งเรียนไป ตาดูกระดาน หูฟังอาจารย์ แต่มือที่อยู่ใต้
โต๊ะนี่จะสับไพ่ตลอด (หัวเราะ) คือไพ่ติดมืออยู่ตลอดเวลาจนอาจารย์ท่านรู้ว่าผมเอาไพ่ไปทำอะไร ซึ่งท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร พอรู้เราฝึกเล่น
มายากลแบบเอาเป็นเอาตายขนาดนี้อาจารย์ท่านก็สนับสนุน
คุณศิรการใช้เวลาเรียนรู้วิทยายุทธกับครูคนที่ 2 อยู่ราว 2 ปี จากเด็กหนุ่มบุคลิกเก้ๆ กังๆ คุณศิรการก็เริ่มหยิบจับเครื่องไม้เครื่องมือได้คล่องขึ้น
เมื่อมั่นใจในความชำนาญเขาจึงเริ่มมองหาเวทีเพื่อแสดงความสามารถ ไม่ว่าจะงานแต่ง งานบวช ผมขึ้นโชว์แหลกเลย เริ่มจากงานของคนที่เรา
รู้จัก ก็นับว่าเป็นการสะสมประสบการณ์มาเรื่อยๆ ผ่านมาสักระยะผมก็ได้รู้จักกับนักมายากลอีกท่านหนึ่งชื่อต้อม มิสเตอร์เมจิก ซึ่งใจดีมาก ผมก็ได้
ไปเรียนรู้เพิ่มเติมกับต้อม มิสเตอร์เมจิกอีก เรียกว่าช่วงนั้นทุกเย็นวันศุกร์เราต้องไปขลุกอยู่ที่บ้านต้อม มิสเตอร์เมจิก นอนค้างถึงวันเสาร์ วัน
อาทิตย์เย็นถึงค่อยกลับมาหอพักแล้วก็ไปเรียนตามปกติ พอเย็นวันศุกร์ก็ไปอีกแล้ว เป็นอยู่อย่างนี้ประมาณเกือบครึ่งปี ซึ่งการได้รู้จักกับต้อม
มิสเตอร์เมจิกทำให้ผมได้เริ่มรับงานเองอย่างเต็มตัว คือถ้ามีคนมาจ้างต้อม มิสเตอร์เมจิกให้มาเล่นในแถบฝั่งธนเนี่ย เขาจะไม่มาเลยเพราะมันอยู่
ไกลบ้านเขา ฉะนั้นถ้าเป็นงานในแถบฝั่งธนฯ ต้อม มิสเตอร์เมจิกก็จะยกให้ผมทั้งหมด
ช่วงแรกงานที่ผมได้รับส่วนใหญ่จะเป็นงานในห้างฯ ซึ่งจะเป็นวันเสาร์อาทิตย์มันก็เลยไม่กระทบเวลาเรียนผมเท่าไหร่ ผมก็เลยทำเป็นงานพิเศษ
มาเรื่อยๆ แต่ช่วงที่ผมรับงานมันก็มีอุปสรรคอยู่บ้างนะครับ สาเหตุอาจจะเป็นเพราะผมยังเด็กๆ อยู่ถ้าเทียบกับนักมายากลคนอื่น ลูกค้าบางคนเขา
จะมีความรู้สึกว่าถ้าเด็กมาเล่นกลให้ผู้ใหญ่ดูมันไม่เหมาะสมเพราะมันเหมือนเด็กหลอกผู้ใหญ่ ลูกค้าก็จะคอมเพลนผมเรื่อยแหละว่าความสามารถ
คุณได้นะ แต่วัยวุฒิคุณมันยังไม่ผ่าน เขาก็เลือกที่จะจ้างนักมายากลรุ่นใหญ่เพราะดูแล้วน่าเชื่อถือกว่า เราก็ต้องยอมรับทัศนคตินั้น แต่ผมก็รับงาน
โชว์มาเรื่อยๆ จนกระทั่งผมเรียนจบ พอเรียนจบผมก็ยังไม่อยากจะไปทำงานออฟฟิศเหมือนคนอื่นๆ ก็เลยหันมารับงานแบบจริงจัง โดยทำการเปิด
เว็บไซต์ diamondmagicnet.com ขึ้นมา พอเปิดเว็บไซต์แล้วตลาดมันก็กว้างขึ้น เรียกว่าลูกค้า 80% มาจากเว็บไซต์ทั้งนั้นเลย จากนั้นผมก็เริ่ม
ตระเวนแสดงตามที่ต่างๆ แล้วก็มีการมองหาพันธมิตรมากขึ้น ดังนั้นถ้าเข้าไปในเว็บไซต์ของผมจะไม่ได้มีแค่โชว์มายากลอย่างเดียว แต่จะมีโชว์
กายกรรม ตัวตลกโบโซ่ โชว์เปลี่ยนหน้ากากจีน กังฟู สุนัขแสนรู้ โรบอต ละครใบ้คนหน้าขาว ฯลฯ ก็แล้วแต่ว่าลูกค้าอยากได้โชว์แบบไหน
คุณศิรการเล่าต่ออีกว่า แม้คนไทยจะคุ้นเคยกับการแสดงมายากลมาเนิ่นนาน แต่มายากลก็ยังคงเป็นที่ชื่นชอบของคนทุกเพศ ทุกวัย รวมถึงคนที่มี
ใจรักอยากจะเป็นนักมายากลก็มีเข้ามาอย่างต่อเนื่องอีกด้วย ผมเชื่อว่าคนทั่วโลกชอบดูมายากล เพียงแต่วัฒนธรรมของแต่ละประเทศอาจจะไม่
เหมือนกัน อย่างเสกนก เสกกระต่าย คนไทยอาจจะเฉยๆ แต่คนญี่ปุ่น เกาหลีจะชอบมาก หรืออย่างเมืองนอกเล่นอะไรแรงๆ คนดูก็รับได้ แต่
บางอย่างคนไทยรับไม่ได้ เพราะฉะนั้นการแสดงอะไรออกไปก็ต้องคำนึงถึงธรรมเนียมของคนดูด้วยครับ
ก่อนจะจบการสนทนา คุณศิรการยังได้ฝากข้อคิดดีๆ ไว้ว่า สำหรับคนที่อยากเป็นนักมายากล สิ่งสำคัญก็คือความรักและความมุ่งมั่น เพราะการ
ฝึกฝนเป็นเรื่องสำคัญมากที่สุด ซึ่งแน่นอนว่าก่อนที่คุณจะเล่นเป็นคุณจะต้องผ่านช่วงที่มันน่าเบื่อสุดๆ ไปให้ได้เสียก่อน ช่วงนี้แหละที่จะทำให้
หลายคนท้อ แต่สำหรับคนที่อยากยืนอยู่บนเวทีอย่างสง่าผ่าเผย ก็ขออย่าได้ยอมแพ้เลยครับ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความตั้งใจจริงของคุณทั้งสิ้น
และอีกประการหนึ่งที่ผมอยากจะฝากไว้ก็คือ ผมอยากให้ผู้ชมมองการเล่นมายากลว่ามันเป็นเพียงการแสดง ดูแค่พอให้สนุกสนาน เพราะใน
ปัจจุบันมีมายากลอยู่ประเภทหนึ่งที่เรียกว่า มายาจิต ลักษณะจะคล้ายการอ่านใจคน ซึ่งแท้ที่จริงแล้วมันก็เป็นเพียงมายากลอย่างหนึ่งเท่านั้น
ฉะนั้นหากมีคนมาใช้มายาจิตกับคุณแล้วบอกว่าเขามีเวทมนต์หรือมีความสามารถพิเศษเรื่องการอ่านใจคนก็ขอให้จงชั่งใจครับ อย่าหลงเชื่อง่ายๆ
เพราะผมเชื่อว่าไม่มีใครสามารถอ่านใจใครได้จริงๆ หรอกครับ
นับได้ว่า คุณศิรการ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่เดินทางมาสู่ความสำเร็จได้ด้วยความมุ่งมั่นโดยแท้ ซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่าความสำเร็จของเขาไม่ได้เกิด
ขึ้นได้ภายในวันสองวัน ใครจะยึดแนวทางของคุณศิรการไว้เป็นแรงบันดาลใจก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีนะคะ ส่วนท่านใดที่สนใจอยากจะชมการแสดง
มายากลสารพัดรูปแบบจาก Diamond Magic สามารถติดต่อถึงคุณศิรการโดยตรงได้ที่ โทร. 08-9768-0241 หรือดูรายละเอียดได้ที่
www.diamondmagicnet.com
ขอขอบคุณ นิตยสารชุมทางอาชีพฉบับที่ 45 เดือนตุลาคม คอลัมน์ : Young Executive เรื่อง : พุทธิเทพ